กลับ

BRR ฟื้นตัวอลังการบุ๊คกำไรปี 64 อยู่ที่ 129.31 ลบ. บอร์ดไฟเขียวแจกปันผลหุ้น–เงินสด ปักธงปี 65 ทุกกลุ่มธุรกิจรายได้โตหรู 50% น้ำตาล-บรรจุภัณฑ์ชานอ้อยดาวเด่น

“บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์ หรือ BRR” ประกาศผลงานปี 64 บุ๊คกำไร 129 ล้านบาท โดยกำไรเติบโตชัดเจนจากปีก่อน รับผลบวกจากราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้นและค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้กลุ่มธุรกิจกลับมามีกำไร ประเมินปี 65 กำไรฟื้นตัวต่ออย่างมีนัยสำคัญเหตุมีคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์ชานอ้อยในมือรอรับรู้รายได้ มั่นใจกลุ่มธุรกิจโตในทุกมิติ คาดรายได้พุ่ง 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลผลิตอ้อยเพิ่มขึ้นถึง 34% บวกกับแนวโน้มความต้องการน้ำตาลในตลาดโลกขยายตัวหนุนราคาน้ำตาลปรับขึ้น พร้อมเปิดแผนลงทุน 100 ล้านบาท ในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย หลังคำสั่งซื้อทะลักกว่า 90% มองอนาคตศักยภาพโตสูงเตรียมดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 5 ปี

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิงวดปี 2564 อยู่ที่ 129.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123.17 ล้านบาท ซึ่งเติบโตอย่างชัดเจนจากงวดปี 2563 ที่มีกำไร 6.14 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับผลบวกจากราคาน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,028.65 ล้านบาท ซึ่งรายได้ลดลง 18.51 ล้านบาท หรือ 0.46% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,047.16 ล้านบาท เนื่องจากมีการเลื่อนส่งมอบน้ำตาลจากสถานการณ์โควิด-19 จากปลายปี 64 มาเป็นต้นปี 65 แทน ในขณะที่ราคาขายน้ำตาลในปี 64 ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลกเมื่อเทียบกับปี 63 เฉลี่ยร้อยละ 25 ต่อตันน้ำตาล

จากผลประกอบการที่มีกำไรดังกล่าว และเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ยังคงเชื่อมั่น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท/หุ้น คิดเป็นเงินรวม 56.84 ล้านบาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2565

สำหรับศักยภาพการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ BRR ในปี 2565 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน เหตุจากทุกธุรกิจในเครือเติบโต หนุนรายได้เติบโตแข็งแกร่ง และมุ่งสู่การดำเนินธุรกิจแบบ New S Curve ที่เน้นความยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย อีกทั้งธุรกิจหลักมีแนวโน้มขาขึ้นจากความต้องการน้ำตาลในตลาดโลกขยายตัว ประกอบกับปริมาณผลผลิตน้ำตาลที่ออกสู่ตลาดมีจำนวนเพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้จากธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยขยายตัวมากขึ้น

“กลยุทธ์ของ BRR ในปี 2565 นี้ ตั้งเป้าทุกธุรกิจเติบโตรับปัจจัยเชิงบวก โดยเฉพาะเป็นช่วงขาขึ้นของราคาน้ำตาลทรายดิบที่ช่วงราคา 18.5-20 เซนต์/ปอนด์ ซึ่งมีปัจจัยมาจากผลผลิตน้ำตาลทั้งโลกไม่เพียงพอต่อความต้องการ และปัจจัยปัญหาการส่งออกน้ำตาลของอินเดีย ส่งผลดีต่อพรีเมี่ยมน้ำตาลทรายดิบของไทย โดยสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจส่งออกน้ำตาลของไทยในปี 2565 ให้มีคำสั่งซื้อมากขึ้น โดยประมาณการผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 2564/65 อยู่ที่ 2.35 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อน 34% หนุนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานทำให้รายได้จากการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น” นายอนันต์ กล่าว

ด้านกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อย ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ชูการ์เคน อีโคแวร์ จำกัด (SEW) คาดว่าในปี 2565 จะกลับมามีกำไร จากการเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตสอดคล้องกับคำสั่งซื้อจากลูกค้าต่างประเทศซึ่งเป็นสัญญาจองซื้อระยะยาวเฟสแรกรวมจำนวนกว่า 15 ล้านชิ้นต่อเดือน และในประเทศประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อเดือน โดยเตรียมขยายเฟส 2 ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 โดยจะใช้วัตถุดิบเยื่อชานอ้อย (เยื่อสีน้ำตาล) ซึ่งเป็นโนว์ฮาวเฉพาะของบริษัท ได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาท สำหรับลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มอีก 7 เครื่อง

“ด้านทิศทางของธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยในปีนี้ แนวโน้มกลับมาเติบโตโดดเด่น สามารถกลับมาทำกำไรได้ เนื่องจากมีออเดอร์ลูกค้าจากต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเป็นสัญญาระยะยาวแล้วกว่า 90% โดยธุรกิจนี้มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตเตรียมผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี” นายอนันต์ กล่าว

นอกจากนี้ BRR ยังลุยเสริมทัพด้วยธุรกิจเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่ง (Wood pellet) โดยได้จัดตั้งบริษัท บีอาร์อาร์ กรีน โฮลดิ้ง จำกัด (BGH) ตอกย้ำการแตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Wood pellet ทั้งในประเทศและต่างประเทศส่วนความคืบหน้าโครงการ Wood pellet ในสปป.ลาว อยู่ระหว่างเตรียมการก่อสร้างโรงงาน คาดเตรียมกดปุ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนภายในไตรมาส 2 ปี 2566