กลับ

น้ำตาลบุรีรัมย์ รับนโยบาล คสช. กำชับคุมเข้มลักลอบนำสินค้าเกษตร

ประเทศเพื่อนบ้านเข้าไทย พร้อมสั่ง กกล.รส.สนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายรถขนอ้อยเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ขณะเดียวกันเอาจริงการจัดระเบียบสังคม ใครฝ่าฝืนปรับสูงสุด 5 หมื่น ถูกดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 บริษัทน้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด(มหาชน)และบริษัทในเครือ ร่วมต้อนรับ พลตรี เดชอุดม นิชรัตน์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 บุรีรัมย์ พร้อมคณะ เพื่อลงพื้นที่ในการชี้แจงเรื่องการจัดระเบียบรถอ้อยให้กับพนักงานขับรถบรรทุกอ้อย ณ บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด(มหาชน) ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมกันนี้ยังเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายของ บริษัท โรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด

ทั้งนี้ เลขาธิการ คสช. ได้สั่งการให้ กกล.รส. ทุกกองทัพภาค เริ่มจัดระเบียบทันที เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง ซึ่งครอบคลุมการขนส่งสินค้าทางการเกษตรชนิดอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะการช่วยเหลือดูแลเกษตรกร ที่ต้องบริหารจัดการให้ครอบคลุมในทุกมิติของความเดือดร้อน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) และกองกำลังป้องกันชายแดน เข้มงวดในมาตรการป้องกันมิให้มีการลักลอบนำเอาพืชผลทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านออกนอกพื้นที่ชายแดน หรือนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตโดยให้ปฏิบัติควบคู่ไปกับภารกิจสกัดกั้นการลักลอบนำพืชผลทางการเกษตรที่ผิดกฎหมายที่มักจะลักลอบเข้ามาทางช่องทางตามธรรมชาติในพื้นที่ชายแดนอีกด้วย ที่สำคัญให้มีการประสานข้อมูลกับกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องโควต้าการนำเข้า เพื่อให้สอดคล้องกันกับการปฏิบัติในพื้นที่ อย่างไรก็ตามการเข้มงวดในการดูแลผลิตผลทางการเกษตรที่นำเข้ามาในประเทศ ก็เพื่อรักษาสิทธิ์ของเกษตรกรไทยและป้องกันมิให้มีผลกระทบต่อราคาพืชผลในประเทศ อาทิ อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด ข้าว เป็นต้น

นอกจากนี้ เลขาธิการ คสช.ได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เข้าไปสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการจัดระเบียบการจราจรและการขนส่งสินค้าและผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะการขนส่งต้นอ้อยจากพื้นที่เพาะปลูกไปยังโรงงานผลิตน้ำตาล ซึ่งพบว่าบางพื้นที่มีการบรรทุกเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และการผูกรัดตรึงไม่เรียบร้อย สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยประสานความร่วมมือกับสำนักงานขนส่งจังหวัด, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด, ผู้ประกอบการโรงงานผลิตน้ำตาล, เกษตรกร และตำรวจ เข้มงวดในมาตรการและแนวทางการปฏิบัติที่มีอยู่แล้วในทุกพื้นที่

ได้แก่การควบคุมความสูงของรถบรรทุกอ้อย, การติดสัญลักษณ์ไฟสัญญาณ, ป้ายข้อความ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย, กำหนดความเร็วของรถ และระยะห่างของรถบรรทุก, การทำประกันภัยประเภทอุบัติเหตุสำหรับรถบรรทุกอ้อยทุกคัน ,การตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งาน, การทำหลักฐานเอกสารบันทึกทะเบียนรถ เส้นทางขนส่ง, การขอความร่วมมืองดรับซื้ออ้อยเข้าสู่โรงงานในเทศกาลสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางสัญจรที่คับคั่ง โดยการจัดระเบียบรถขนส่งอ้อยดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการนำร่องแล้วในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 จ.สุโขทัย ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้สั่งการให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยทุกกองทัพภาค เริ่มจัดระเบียบทันที เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ เกษตรกร รวมทั้งเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมการขนส่งสินค้าทางการเกษตรชนิดอื่นๆ ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ด้วย

สำหรับความต่อเนื่องในเรื่องการจัดระเบียบสังคม กกล.รส. ได้ดำเนินการในหลายมิติ ล่าสุดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จากการหารือร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบในการบังคับใช้กฎหมายสูงสุดต่อผู้กระทำผิดคือ ปรับ 50,000 บาท ยกเลิกสัญญา ดำเนินคดีตามความผิด

เลขาธิการ คสช. ยังคงห่วงใยและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยย้ำถึงการใช้กลไกศูนย์ดำรงธรรมในการแก้ปัญหาในทุกเรื่องในทุกพื้นที่ ด้วยวิธีการลงไปสืบค้นปัญหาควบคู่ไปกับการรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน ที่ผ่านมาปัญหาที่ได้รับการแก้ไขส่วนใหญ่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล