กลับ

BRR ตั้งเป้าดันสัดส่วนกำไรจากธุรกิจพลังงานทดแทนในปี 58 แตะ 30% ด้านผู้บริหารประกาศลุยลงทุนรุกธุรกิจต่อเนื่อง

'บมจ.น้ำตาลบุรีรัมย์' หรือ BRR ตั้งเป้าดันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่ม 10% ส่วนกำไรเพิ่มเป็น 30% รับข่าวดีเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) จากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 2 อีก 8 เมกะวัตต์ ในรูปแบบ FiT ช่วงเดือน เม.ย. นี้ ชี้ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยเพิ่มอีก 0.93 บาท ผู้บริหารลั่นเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานทดแทนต่อเนื่อง ด้านธุรกิจโรงงานน้ำตาลยังเติบโตดีจากปัจจัยการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำหนุนกำไรเพิ่ม

นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายดิบ น้ำตาลทรายขาวสีรำส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ และนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายไปต่อยอดสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายต้องการดันสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 10% ของรายได้รวมในปีนี้ หรือคิดเป็นรายได้ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งแรก 200 ล้านบาทและโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 2 อีก 250 ล้านบาท ขณะที่สัดส่วนกำไรสุทธิจากธุรกิจพลังงานทดแทนจะเพิ่มเป็น 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 20%

สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 2 หรือ โรงไฟฟ้าบุรีรัมย์เพาเวอร์ ที่มีกำลังการผลิต 9.9 เมะวัตต์ และ BRR ทำสัญญาพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ จำนวน 8 เมกะวัตต์ ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในรูปแบบ FiT ซึ่งมีราคารับซื้อไฟฟ้าต่อหน่วยสูงขึ้นจากเดิม 3.60 บาท เป็น 4.53 บาทต่อหน่วยหรือเพิ่มขึ้น 0.93 บาทต่อหน่วย ได้ภายในเดือนเมษายนนี้

"ในปีนี้ จะเป็นปีที่ธุรกิจพลังงานทดแทนของ BRR มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นทั้งในแง่ของรายได้และกำไรที่ดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มุ่งนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลมาต่อยอดสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ธุรกิจพลังงานทดแทนได้ดีที่สุด ซึ่งเรามีแผนขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มเติมโดยได้จัดตั้งบริษัท บุรีรัมย์เพาเวอร์พลัส จำกัด เพื่อเป็นผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 3 ไว้เรียบร้อยแล้ว" นายอนันต์ กล่าว

"เรามั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีที่ BRR เติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งมาจากฐานธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายที่เรามีผลผลิตน้ำตาลทรายที่มากขึ้นและต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง อีกทั้งยังสามารถสร้างเม็ดเงินรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งจากธุรกิจพลังงานทดแทนอีกด้วย" นายอนันต์ กล่าว

ส่วนธุรกิจโรงงานน้ำตาลทราย ในปีนี้คาดว่าจะรับผลผลิตอ้อยเข้าหีบได้ 2.2 ล้านตันอ้อย ผลิตเป็นน้ำตาลทรายได้ประมาณ 2.5 แสนตัน เทียบปีก่อนที่ผลิตได้ 2.08 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 5 แสนตัน ซึ่งมาจากการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำและยังทำกำไรเพิ่มขึ้น โดยในฤดูการผลิตปัจจุบัน ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยของบุรีรัมย์อยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศ (115 กก/ตันอ้อย) อีกทั้งยังมีผลพลอยได้ที่เป็นกากน้ำตาลเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าเพิ่มเป็น 80,000 ตันจากปีก่อนที่มีปริมาณอยู่ที่ 70,000 ตันอีกด้วย

"เรามั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีที่ BRR เติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งมาจากฐานธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายที่เรามีผลผลิตน้ำตาลทรายที่มากขึ้นและต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง อีกทั้งยังสามารถสร้างเม็ดเงินรายได้และกำไรที่แข็งแกร่งจากธุรกิจพลังงานทดแทนอีกด้วย" นายอนันต์ กล่าว